โศภิษฐ์ตา

สวัสดี ฝากความคิดถึงกันไว้หน่อย นะจ๊ะ

วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

1เดือนแล้ว โคตะกับโรงเรียน

1เดือนผ่านไป โคตะเร่งทำเวลาข้าวกล่อง  ได้เร็วเป็นอันดับ 3 นี่จริงหรือเปล่าไม่รู้ตัวเองไม่ได้จัดอันดับ ฟังมาจากลูกเพื่อนที่โรงเรียน น้องยูตะ เค้าบอกชื่อเพื่อนๆ ได้หมด ว่าใครอันดับหนึ่ง สอง โคตะอันดับสาม ฟังแล้วไม่น่าเชื่อ เพราะอยู่บ้านเป็นหอยทากเลย อาจเป็นเพราะเล่นเหนื่อยจนหิว  ครูบอกว่ายังไม่ถึงเวลากินข้าวกลางวันก็บอกหิวแล้ว  อยู่บ้านมีอาหารว่าง จานใหญ่ไปหน่อย อีกอย่างกินหมดกล่องทุกครั้ง มีล่าสุดกินไม่หมด เป็นเพราะ ไม่ค่อยสบาย บ่นเจ็บคอ  ไข้ขึ้น 39 องศาตั้งแต่ สัปดาห์ก่อนหน้าแล้ว แต่ปล่อยให้ลงเอง  ไม่ได้ให้ยาแต่อย่างใด  ตอนนี้มีน้ำมูก กับท่าทางเจ็บคอ  พรุ่งนี้หยุดอีก1 วันวันพุธก็ทำกับข้าวกันเองในโรงเรียน โคตะจำชื่อใครไม่ได้เลยตอนนี้  นอกจากลูกของครู  ยูคุง กับยูตะเพื่อนกันก่อนไปโรงเรียน น่าจะเป็นเพราะภาษา ญี่ปุ่น เพี้ยน ๆ ของโคตะ 
โคตะช่วยเหลือตัวเองได้หมดเลย ไม่ว่าจะพับผ้า ใส่กระเป๋า ถอดเสื้อผ้า ใส่กระดุมเสื้อ เองเก็บผ้า มีแต่เรื่องถอดรองเท้าเก็บในตู้รองเท้า วันแรกไม่ทำแถมวิ่งหนี ไม่เก็บกระเป๋าใส่ตู้  แถมหนี แวบไปเลย ครูต้องเหนื่อยกันเกือบเดือน ถึงจะทำ จะเห็นว่าสัปดาห์แรก รองเท้าโคตะจะวางอยู่ที่บันไดเนื่องจากไม่เก็บเข้าที่ แล้วสัปดาห์แรก หงุดหงิดมาก เห็นหน้าแม่โมโหใส่ ส่วน สัปดาห์ที่สองดี ขึ้น แรก ๆ เด็ก ส่วนมากจะเครียด กับโรงเรียน ก็มันไม่เหมือนอยู่บ้านนิน่า  คูณครูทั้งสองคนก็จัดการจนตอนนี้ เก็บกระเป๋า กับรองเท้าเข้าที่ได้เรียบร้อย  ครูบอกว่า โคตะใจดี กับยูคุงมากๆ   ยูคุงอายุเท่าๆ กับมิกิห่างกันเดือนเดียวกัน ทำเอาแม่อึ้งเลย ไม่เห็นมานใจดีกับนอ้งมันล่ะ นอกจาก น้องมันแย่จริงๆ  ของอะไร ก็อิจฉากัน ผลักน้อง ทำไมใจดีกับยูคุงล่ะ   ดูท่าทางโคตะจะดื้อที่สุดในโรงเรียนเลย แต่คุณครูก็ยังใจดีบอกว่า ซนมากกว่า แต่ถ้าบอกห้ามอะไรก็ฟังอยู่   มันก็จริง เราห้ามอะไรควรไม่ควรก็ทำอยู่   วีรกรรมโคตะ เป็นคนบอกเองว่า โดดขึ้นไปบนโต๊ะกินข้าว  ครูบอกว่าที่นี่มันโตะกินข้าว ห้ามขึ้น แบบว่าโต๊ะกินข้าวนักเรียนตัวเล็ก พอดีที่บ้านมีโต๊ะเท่ากัน แต่เป็นโต๊ะกลมไว้โดดเล่น มันเท่า ๆ กันกับโรงเรียน แต่โต๊ะเวลากินข้าวบ้านโคตะก็รู้น่ะ ไม่เคยขึ้นนอกจากแรก ๆ ที่ปีนได้ ก็โดนดุแล้ว แต่อันนี้ครูไม่ได้บอกเรา หรอก ฟังจากลูกเอง  ก็ขำ ๆ ครูคงเหนื่อยน่าดูกับโคตะมันซน มากกว่าเด็กปรกติ น่ะ  วันหลังค่อยถามว่าโคตะซนระดับไหนสำหรับครู 
โรงเรียนก็โปรแกรมประชุมสำหรับผู้ปกครอง แล้วก็กิจกรรมสำหรับ คุณแม่ยาวเหยียดไม่ให้บรรดาแม่ ๆ ว่างเลย ใกล้จะถึงก็ ครูกับผู้ปกครองคุยกันตัวต่อตัว 15 นาที ประมานว่าตอนนี้เด็ก เป็นอย่างไร พ่อแม่อยากให้เด็กเป็นอย่างไร ควรทำอย่างไร  อะไรประมานนี้  ต้นเดือนหน้า ก็วันพ่อ  พ่อต้องไปโรงเรียนกับเด็ก ๆ ในวันเสาร์ไปทำกับข้าวกินกันเอง  โรงเรียนนี้ เด่นเรื่องนี้มากๆๆ ไม่รู้เป็นไรชอบให้ทำกับข้าว เองเราเองไม่ได้ คิดอะไรมาก เพราะอยู่บ้านโคตะก็มีส่วนร่วมอยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยจับมีดน่ะ แบบว่าดูไม่ไหวเพราะมีมิกิตัวยุ่งอีก แต่ถ้าเป็นที่โรงเรียนจะมีเด็กโตกว่าช่วยน้อง  ถ้าคนไหนสัญญาว่าจะระมัดระวัง อยากจับมีด  แล้วทำอย่างระวัง  ครูก็จะให้ทำ  โคตะเองไม่ค่อยพูดเรื่องทำกับข้าวสักเท่าไร มันคงไม่ได้ไปร่วมทำอะไรกับเค้าน่ะ เป็นประเภทโลกของฉันไม่ร่วมกับใคร  มันเป็นอย่างนี้จริง ๆ แต่ถ้าใครลำบากหรือ ท่าทางแย่ ๆ มันจะช่วย แต่ชอบใช้ความคิดเอง ไม่ร่วมกับใคร
ส่วนภาษาไทย โคตะตอนนี้ห่วยแตกเหมือนเดิม  คิดว่าจะสอนมิกิพูดไทยไปเลยไว้พูดกับพี่ แล้วให้ไปเรียนกันเอง สองคน

วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2554

สูตรลิปปาล์มปกป้องริมฝีปาก (ทำเอง)

อุปกรณ์
1.หม้อสแตนเลส
2.ช้อนคนอันเล็ก
3.กระปุกแก้วพร้อมฝา


ส่วนผสม
1.ขี้ผึ้ง 30 g
2.น้ำมันเม็ดองุ่น 30 ml
3.น้ำมันดอกดาวเรือง 30 ml
4.น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ 3 หยด


วิธีทำ
1.ละลายน้ำมันเม็ดองุ่นและน้ำมันดอกดาวเรืองกับขี้ผึ้งเข้าด้วยกันในหม้อสแตนเลส ใช้ความร้อนต่ำและหมั่นคนให้เข้ากัน
2.เมื่อขี้ผึ้งละลายเข้ากันดีแล้วเอาหม้อออกจากเตาความร้อนคนจนกระทั่งเย็นลง
3.หยดน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ 3 หยดและคนให้ทั่ว
4.เปลี่ยนใส่กระปุกแก้วที่จัดเตรียมไว้แล้วรอให้เย็น

25 ounce beewax
.33 ounce shea butter
.33 ounce cocoa butter
.40 ounce sweet almond oil
2ml vitamin E
3 drops honey
5 drops orange essential oil (ตามสูตรให้ใส่ 10 หยด)

เพิ่มน้ำผึ้งไปติ๊ดนึง เปลี่ยนจาก peppermint เป็น orange eo

ที่ เลือกสูตรนี้ ออกมาแล้วได้ประมาณ 10 tsp แบ่งใส่ได้ 5 ตลับ  (ตลับนี้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 cm)


วิธีทำ...

นำน้ำมัน บัตเตอร์ และบีแว๊กซ์มารวมกัน ตั้งไฟอ่อนๆให้ละลาย (หรือใส่ไมโครเวฟ ใช้ไฟอ่อน ให้ละลายให้หมด) ใส่น้ำผึ้งและกลิ่น คนให้เข้ากัน เทใส่ภาชนะขณะยังร้อน ทิ้งไว้ให้เย็นจึงปิดฝา... เสร็จ

โลชั่น วิทย์

การทำครีม หรือ Lotion ไม่มีอะไรยากครับง่ายมากๆก่อนอื่นต้องมีความรู้เรื่องเคมีนิดหน่อย
ไม่ต้องเก่งครับ ขอแค่ตั้งใจก็พอครับ

1. จัดเตรียมสุตร
Part A :Water Part
Di Water    qs.
Disodium EDTA (EDTA2Na)   0.1%
Cabopol (Cabomer)  0.15 %
Glycerine (Moisturizer)  1-2 %
Methyl Paraben0.1 %

Part B : Part Oil
Mineral Oil (Parafin Oil)  2.5 %
Stearic Acid (Fatty acid)  0.5 %
Cethyl Alcohol (Fatty Acid)  0.5 %
Glyceryl Mono Stearate (Emulsifyer)  2 %
Dimethicone (Silicone)  3 %
IPM (Isopropyl Myristate)  2 %
Propyl Paraben  0.1 %

Part C : Active
Vitamin E 0.03%
สารสกัดจากส้ม หรือต้องการ  หรือ อะไรก็ได้ที่เราต้องการใสลงไป 1-2 %
Fragrance (น้ำหอม)  0.6 %

Process :
1. Heat Part A And Part B Temperature 80 C
2. Add Part B In to A
3. Homoginizer  15 Min
4. Drop temp.~  50 -60 C
5. Add Part C And D   OK
Cooldown Roomtemp........
กรด ในมะเขือเทศ สามารถนำมาทำโลชั่นทำความสะอาดผิวได้ เพราะมีฤทธิ์ช่วยในการขัดลอกเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน โดยเฉพาะเมื่อนำมาผสมกับนมจะมีกรดแล็กติกช่วยในการขัดลอกเซลล์ผิว วิธีทำ นำมะเขือเทศสุกมาบดให้ละเอียด แล้วเทลงในผ้าขาวบาง และบีบน้ำออก แล้วนำน้ำมะเขือเทศผสมกับนมเท่า ๆ กัน แล้วใช้เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าวันละ 1 หรือ 2 ครั้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำแร่ หรือน้ำสะอาดก็ได้ วิธีนี้เหมาะสำหรับผิวมัน และผิวผสม ถ้าอยากมีผิวสวย ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติกัน

อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1528774#ixzz1J8Ai1GBd


distilled water 80%
oil 2%
เชียร์บัตเตอร์ 1%
steric acid 3%
Cetyl alcohol 2 %
Cyclomethicon 2 %
Isopropyl Myristate 2%
emulsifying wax (e-wax) 4%
glycerine 2%
preservative 1%
fragrance 1%

1. Distilled Water ก็คือน้ำกรองค่ะ
2.Oil คือน้ำมันน้ำมันมะกอก น้ำมันดอกชา น้ำมันคาโนลาออยด์ก็ได้ค่ะ หรือจะเป็นน้ำมันที่ซื้อได้ตามร้านขายเคมีภัณฑ์ก็ได้ค่ะ เช่นน้ำมันโจโจบาออยด์ หรือน้ำมันสวีทอัลมอนด์ก็ได้ค่ะ
3.Steric Acid กรดเสียริค เป็นตัวที่ทำให้เนื้อครีมมีความเข้มข้นค่ะ
4. เชียร์บัตเตอร์ ในเชียร์บัตเตอร์บริสุทธิ์จะอุดมไปด้วยวิตามิน A และ E จะเป็นตัวที่ช่วยให้ผิวอ่อนนุ่มเรียบเนียน เหมาะกับผิวแพ้ง่าย และยังช่วยปกป้องเซลล์ผิว รักษาริ้วรอย ทำให้ผิวอ่อนกว่าวัยค่ะ แต่ใช้มากเกินไป ก็จะเหนอะหนะค่ะ
5.Emulsifying Wax หรือที่เราเรียนกันว่า E-WAX ค่ะ เป็นตัวที่ทำให้น้ำกับน้ำมันรวมเข้ากันเป็นหนึ่งเดียว
6.Glycerine กรีเซอรีน เราใช้แบบน้ำ เป็นวที่ทำให้ความชุ่มชื้นต่อผิว
7.Cyclomethicon คือซิลิโคลนจะทำให้ผิวนุ่มลื่น
8.Isopropyl Myristate หรือ IPM ตัวนี้ทำให้โลชั่นซึมเข้าผิวเร็วขึ้นแลไม่รู้สึกเหนียวตัว
9.Cetyl alcohol เป็นตัว ingredients ต่างๆ ในเครื่องสำอางค์ซึมเข้าสู่ผิวคือเมื่อไขมัน หรือน้ำมันผ่านกรรมวิธีทางเคมีแล้ว จะทำให้มีความหนาแน่นลดลง ตัวนี้จะเรียกว่า Fatty alcohol มีคุณสมบัติทำให้ผิวนุ่มขึ้น และยังสามารถใช้เป็นตัวทำความสะอาดได้ด้วย ส่วนใหญ่สกัดมาจาก Coconut Fatty Alcohol
10.Preservative เป็นตัวที่ขาดไม่ได้ เป็นสารกันบูดในเครื่องสำอางค์
11.Fragrance หรือหัวน้ำหอม :lis

คลีนซิ่ง โลชั่น

น้ำกลั่น
emusfing wax  stearic aCID RICE BRANTOIL JOJOBAOIL  APRICOT OIL
 honey  TOMATO  ATACT

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

สีในสมัยโบราน

สี ผสมอาหารจากพืช ที่คนไทยโบราณใช้กันมา ในปัจจุบันชักจะเลือนหายไปทุกที ซึ่งการใช้สีผสมอาหารจากธรรมชาติ 100 % นอกจากจะได้สีสันที่สวยงามแล้ว ยังได้กลิ่นเฉพาะตัวอีกด้วย สีที่เราสามารถสกัดได้จากพืชหลายสี เป็นสีที่ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ได้แก่

สีเหลือง
สกัด ได้จาก ขมิ้นชันและขมิ้นอ้อย ล้างดินปอกเปลือก โขลกให้ละเอียด เติมน้ำแล้วกรองเอาแต่น้ำ ใช้ทำข้าวเหนียวหน้ากุ้ง ข้าวหมกไก่ แกงกะหรี่ ขนมเบื้องญวนดอกคำฝอย ให้สีเหลืองอ่อน ใช้กลีบตากแห้งต้มกับน้ำเดือด 5 นาที กรองเอากากทิ้ง ใช้ผสมขนมต่าง ๆเมล็ดคำแสด ให้สีเหลืองแสด ใช้เมล็ดแห้งแช่น้ำร้อน กรองเอาแต่น้ำลูกพุด ใช้ผลแก่หรือแห้ง ซื้อตามร้านขายยาแผนโบราณ แช่น้ำร้อน กรองเอาแต่น้ำ ดอกกรรณิการ์ ให้สีแสด ใช้ก้านดอกสีแสด บิดให้ช้ำ เติมน้ำนิดหน่อย ห่อผ้าขาวบางคั้นเอาแต่น้ำ ลูกตาลสุก ลอกเปลือกแข็งออกใส่น้ำพอท่วม นวดให้เนื้อเละ เติมน้ำอีกเท่าตัว คนให้เข้ากัน คั้นกรองเอาเส้นและเปลือกทิ้ง เทน้ำใส่ถุงผ้าทับให้แห้ง ทำขนมตาล ขนมเค้ก ไอศกรีม ฟักทอง นึ่งผสมกับแป้ง ทำขนมถั่วแปบแครอท ต้มสุกบดละเอียด ผสมลงในถั่วกวน

สีเขียว
ใบเตยหอม ใช้ใบค่อนข้างแก่หั่นละเอียด โขลกเติมน้ำ คั้นน้ำ ทำขนมชั้น มะพร้าวแก้ว ซ่าหริ่ม ลอดช่องใบย่านาง ใบพริก ใบผักชี ใบมะตูม ใบตะไคร้ พริกเขียว โขลกละเอียด คั้นน้ำแต่งสีอาหารคาว เช่น แกงบอน แกงเขียวหวาน

สีแดง
รัง ครั่ง แช่น้ำร้อนหรือต้ม ถ้าต้องการสีแดงใส ใช้สารส้มแกว่งในน้ำที่ได้ ทำขนมชั้น ซ่าหริ่ม ขนมน้ำดอกไม้พริก ที่สุกแดงทุกชนิดแกะเมล็ดออก โขลกเนื้อพริกให้ละเอียดใช้ได้ทั้งพริกแห้ง และพริกสด ทำแกงเผ็ด น้ำพริก น้ำยา น้ำจิ้มมะเขือเทศสุก หั่น สับ ต้มและยีทำเป็นซอสมะเขือเทศกระเจี๊ยบ ใช้กลีบหุ้มผลต้มกับน้ำคั้นเอาแต่น้ำสีแดงเมล็ดผักปรัง ใช้เมล็ดแก่สีแดงคล้ำ ขยี้คั้นเอาแต่น้ำ

สีน้ำเงิน
ดอกอัญชัน ใช้กลีบสีน้ำเงินขยี้ให้ช้ำเติมน้ำเล็กน้อย กรองด้วยผ้าขาวบาง ทำขนมชั้น ซ่าหริ่ม ถั่วแปบ

สีม่วง
ดอกอัญชัน บีบมะนาวลงไป ทำขนมช่อม่วง

สีดำ
ถ่าน กาบมะพร้าว บดละเอียดเติมน้ำคั้น กรอง ทำขนมเปียกปูน ดอกดิน เอื้องดิน โขลกผสมกับแป้ง น้ำตาล ทำขนมดอกดิน ถั่วดำ ต้มสุกโขลกละเอียด ทำไส้ซาลาเปา ขนมเปี๊ยะ

สีน้ำตาล
น้ำตาลไหม้ ใช้น้ำตาลทราย หรือน้ำตาลปึก ตั้งไฟละลายเคี่ยวจนไหม้ แต่งหน้าขนมนางเล็ด
สี เหล่านี้มีให้เลือกใช้นำไปปรุงอาหารทั้งคาวและหวาน แตกต่างกันไปตามความประสงค์ของผู้ใช้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือความสบายใจของผู้บริโภคที่ได้รับแต่ของดีมีประโยชน์
เรียบเรียงจาก : เหมวดี พลรัฐ
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์